เรื่องที่ถกเถียงกันมากของใครหลาย ๆ คนในปัจจุบันนั้นก็ไม่พ้นเรื่องของ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศห้ามมิให้มีการครอบครองและนำเข้ามาในไทย หลังจากนั้นก็มีคนอยู่เป็นจำนวนมากแสดงความคิดเห็นและบางส่วนก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลทำ ทั้งสองฝ่ายจึงหยิบข้อมูลมาเสริมความคิดของตนมีความถูกต้องถูกต้อง บทความนี้จะพูดเรื่อง บุหรี่ไฟฟ้า ว่าบุหรี่นี้เป็นชนิดใด แล้วมีอันตรายอย่างไร
เรื่องของ บุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ที่เรียกว่า บุหรี่ไฟฟ้า จะใช้งานในรูปแบบของการสูบซึ่งควบคุมด้วยระบบการทำงานของไฟฟ้าที่ผลิตไอระเหยของสารเคมี แต่ไม่มีกระบวนการเผาไหม้อันเป็นคุณสมบัติของบุหรี่ทั่วไป และเป็นบุหรี่ที่สร้างความร้อนด้วย ส่วนประกอบหลักที่อยู่ในบุหรี่มีทั้งหมด 3 ส่วน คือ น้ำยา เครื่องทำให้ไอระเหย แบตเตอรี่ และความร้อน โดยจะกล่าวได้ดังต่อไปนี้
- กลีเซอรีนเป็นสารที่ใช้ในการเพิ่มความชื้น ประกอบด้วยโพลิลินไกลคอลเป็นส่วนประกอบ อย. ยืนยันว่าสารนั้นปลอดภัยและใช้ร่วมกับยาหรืออาหารได้ แต่หากสารกลายเป็นไอและสูดดมหรือหายใจเข้าไป ยังไม่ได้รับรองว่าปลอดภัยต่อร่างกาย
- ส่วนประกอบที่สร้างไอน้ำ จะเรียกว่า โพรพิลีนไกลคอล
- นิโคติน คือสารเสพติดชนิดหนึ่ง พบในบุหรี่ทั่วไปและ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งสารนี้ก่อให้เกิดอาการเสพติดของร่างกาย
- สารแต่งกลิ่นรส เป็นสารเคมีที่ใช้กันทั่วไปในอาหารและปลอดภัยหากกลืนกิน เมื่อเปลี่ยนเป็นไอน้ำ ก็ยังไม่ได้มีการรับรองว่าจะปลอดภัยกับร่างกายหากสูดเข้าไป
อันตรายจาก บุหรี่ไฟฟ้า ต่อผู้สูบ
สารต่าง ๆ ที่อยู่ข้างในของน้ำยา บุหรี่ไฟฟ้า มีอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งสารที่จะกล่าวนั้น ได้แก่
- นิโคตินเป็นสารที่ช่วยเพิ่มความดันโลหิต สารนี้กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง โอกาสในการเป็นมะเร็งก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน การหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่าเมื่อเทียบกับตอนไม่สูบ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นสารกระตุ้นฮอร์โมนคอร์ติซอลเพื่อเพิ่มการหลั่ง อันเป็นผลมาจากโรคเบาหวาน นิโคตินช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเซลล์ผนังหลอดเลือด ผู้สูบบุหรี่จึงมีโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือด
- กลีเซอรอล/กลีเซอไรด์และโพรพิลีนไกลคอลเป็นสารที่ระคายเคืองตา ปอด และผิวหนังของผู้สูบบุหรี่
จะเห็นได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้า เป็นรูปแบบหนึ่งของบุหรี่ที่ส่งผลต่อร่างกายของผู้สูบบุหรี่และทำให้เกิดโรคต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากการมีอยู่ของสารหลายชนิดในบุหรี่ ทั้งยังไม่มีควันอย่างที่ควรจะเป็น แม้ว่าจะมีสารที่ผ่านการรับรองแล้วว่าปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเป็นการสูบเข้าไปจะส่งผลใดบ้างต่อร่างกาย